หน้าแรก

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562



“แนวโน้ม (Trend) การเรียนรู้ในอนาคต”
โดย โอชวิน  จิรโสติกุล ผู้ก่อตั้ง Future Skill

---------------------------------

         อาชีพจะหาย ทักษะจะหมดอายุ ทำไมเราต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต ?
         ความรู้มันมีวันหมดอายุหลายที่เขา Research มาพบว่าความรู้มันมีอายุเพียงแค่ ๒ – ๗ ปี เท่านั้นเองซึ่งแปลว่าเราเรียนมาเมื่อ ๗ ปีที่แล้ว ตอนนี้ความรู้เรา out of date แล้วถ้าเราไม่ upgrade ความรู้ตัวเอง 

          แนวโน้ม (Trend) การเรียนรู้ในอนาคต ?
         ตอนนี้แนวโน้ม (Trend) ที่มาแรงเรียกว่า Nano degree คือ การที่เราเรียนเพียงแค่สิ่งที่เราต้องใช้ในการทำงาน เราไม่จำเป็นต้องเรียน ๔ ปี ทุกอย่างเหมือนที่เราเคยเรียนมาในอดีต เพราะว่าการเรียนแบบเดิมมันเสียเวลาแล้วก็เสียค่าใช้จ่ายเยอะด้วย แต่เราได้ใช้ความรู้แค่นิดเดียวจากที่เราเรียนรู้มาเท่านั้นเอง จึงเกิด Nano degree ขึ้นมา และก็เป็นความรู้ที่สดใหม่กว่า อย่างเช่น เรื่องของ AI (Artificial intelligence) เรื่องของ Programming ซึ่งสิ่งนี้กำลังเข้ามาในประเทศไทยแล้ว

          การเรียนรู้ต้องทำตลอดชีวิต ?
          ก่อนที่เราจะพูดถึง Re - Skill เราต้องพูดถึง Up - Skill ก่อน
          Up - Skill คือ การเพิ่มคุณค่าให้กับทักษะเดิมของเรา
          Re - Skill คือ การเปลี่ยนแปลงทักษะใหม่ อย่างเช่น เราเรียนจบด้านศิลปะ แต่เราอยากทำงานด้าน Programming หรือ Data Science เป็นต้น แบบนี้เรียกว่า Re - Skill สาเหตุว่าทำไม Re - Skill ถึงสำคัญในยุคนี้ เพราะว่ามันเกิดคำว่า Disruption ขึ้นมา ซึ่ง Disruption จะทำให้สิ่งต่างๆ ไม่แน่นอนนั้นแปลว่า อาชีพเรา ชีวิตเรามีความเสี่ยง ถ้าเราอยู่กับทักษะเดิม วันหนึ่งเราไม่รู้ว่าทักษะนั้นจะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นหรืออาจจะตกงานหรือเปล่า เพราะฉะนั้นคนเราต้อง Re - Skill ตามแนวโน้ม (Trend) ที่เกิดขึ้นใหม่หรือตาม Disruption ที่เกิดขึ้นมาใหม่ด้วย แต่ที่สำคัญคือ     เราแค่ Re - Skill อย่างเดียวไม่ได้เราต้องเพิ่มคุณค่าเชิงลึกของทักษะเข้าไปด้วย กล่าวคือ เราต้องทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป

           คอร์สเยอะแยะต้องเลือกอย่างไร ?
           วิธีในการเลือกเรียนในยุคที่มีคอร์สออนไลน์เต็มไปหมด คือ ต้องตั้งเป้าหมายก่อน
           อันดับที่หนึ่ง คือว่า เราอยากเรียนรู้อะไร เอาไปใช้ทำอะไร
           อันดับที่สอง คือ ต้องเช็คว่าผู้สอนคือใคร มีผลงานจริงๆหรือไหม เขาสามารถให้คำแนะนำเราได้จริงหรือเปล่า
           อันดับที่สาม คือ สถาบันที่สอนบางสถาบันอาจจะเชี่ยวชาญด้าน Technology ทำให้เขา น่าเชื่อถือ เขาอาจมี Network หรือผู้สอนที่เก่งในด้านนี้เยอะ อย่างที่ผมทำอยู่ คือ Future Skill    เราเน้นทางด้าน Technology, Creativity และ Business

           ทักษะที่ควรมีและควรเรียนรู้ ?
           ผมมองว่าเราควรเรียนรู้ทักษะ ๓ อย่างที่สำคัญ คือ
           อย่างแรก คือ ทักษะทางด้าน Technology เนื่องจาก Technology จะทำให้เราสามารถทำงานกับระบบอัตโนมัติ กับ Technology ที่กำลังเกิดขึ้นมาได้ในปัจจุบันและจะทำให้เราไม่ตกงาน
           อย่างที่สอง คือ ทักษะทางด้าน Creativity เนื่องจาก Creativity จะทำให้เราเอาชนะระบบได้สามารถคิดในสิ่งที่คนอื่นและระบบหรือ Robot คิดไม่ได้
           อย่างที่สาม คือ ทักษะทางด้าน Soft skills จากนิตยสาร Forbes กล่าวว่าทักษะ Soft skills จะเป็นทักษะที่เพิ่มมูลค่าให้กับตัวเรามากที่สุด เพราะจะทำให้เราสามารถ Communicate กับบุคคลอื่นๆ เพื่อสร้างคุณค่าให้กับทีมได้ 

           อยากฝากอะไรถึงคนยุคนี้ ?
           ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเรียนรู้และคุณต้องรีบด้วย เพราะความรู้เดี๋ยวนี้จะเพิ่มเร็วมากหากวันนี้คุณยังไม่ปรับตัว ในอนาคตคุณจะมานั่งกับตัวเองแล้วพบว่า คุณจะคิดอะไรไม่ออกเลย เนื่องจากคุณไม่มี idea เลย จะทำอะไรก็จะทำไม่ได้ แล้ววันหนึ่งคุณจะพบว่า มันช้าเกินไปแล้ว     ที่คุณจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ


ที่มา :  โอชวิน  จิรโสติกุล ผู้ก่อตั้ง Future Skill  คลิปวิดีโอ “แนวโน้ม (Trend) การเรียนรู้ในอนาคต”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น